นอนไม่หลับเสี่ยงโรคร้ายอะไรได้บ้าง

ต้องยอมรับเลยว่าในสมัยปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ มักที่จะใช้ชีวิตกันด้วยความเร่งรีบและความกดดันต่างๆมากมายจนทำให้บางคนนั้นไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลสุขภาพร่างกายของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการนอนหลับพักผ่อน เพราะบางคนทุ่มเททั้งเวลาร่างกายให้กับการทำงาน จนทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ง่าย

นอนไม่หลับเสี่ยงโรคร้าย เนื่องจากไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอซึ่งรู้หรือไม่ว่าการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอนั้นมีความสำคัญต่อการใช้ชีวิตในประจำวันของเราเป็นอย่างมาก

เพราะเมื่อไรก็ตามที่ร่างกายของเราได้รับการพักผ่อนไม่เพียงพอนอกจากจะทำให้การใช้ชีวิตในประจำวันไม่มีประสิทธิภาพ ยังอาจทำให้ร่างกายได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้ง่ายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ฉะนั้น ไม่ว่าเราจะทำงานหนักมากขนาดไหนก็ตามการดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองถือเป็น หนึ่ง ในปัจจัยสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามและไม่ควรที่จะปล่อยละเลยอย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่กำลังมีพฤติกรรม การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอหรือบางคนอาจจะนอนไม่หลับ

วันนี้เราก็จะพาทุกคนไปดูกันว่าหากเรานอนละ พักผ่อนไม่เพียงพอหรือ  เครื่องช่วยฟังราคาถูก   นอนไม่หลับอยู่เป็นประจำนั้นร่างกายของเราจะได้รับความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายอะไรได้บ้างไปดูกันเลย

  • โรคเบาหวา

แน่นอนว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรานอนไม่หลับ หลายๆคนนั้นมักที่จะรู้สึกหิวในตอนดึกๆ จึงทำให้บางคนนั้นอาจจะลุกขึ้นมากินขนมหรือ รับประทานอาหารกันอย่างแน่นอนซึ่งแน่นอนว่าหากเรามีพฤติกรรมแบบนี้อยู่บ่อยๆจะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงทำให้ร่างกายของเรานั้น เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น แถมยังอาจทำให้ น้ำตาลในเลือดของเราพุ่งสูงมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

  • โรคอัลไซเมอร์

รู้หรือไม่ว่าคนที่อดนอนบ่อยๆหรืออดนอนอยู่เป็นประจำนั่นจะยิ่งเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์หรือโรคความจำเสื่อมได้ง่ายมากยิ่งขึ้น เพราะโดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยโรคอัลไซเมอร์ มักที่จะมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับในตอนกลางคืน ยิ่งถ้าใครอดนอนมากๆหรือนอนไม่หลับอยู่บ่อยๆนั้น อาจจะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ง่าย

  • โรคหัวใจ

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากัดอดนอนมากๆหรืออดนอนอยู่บ่อยๆนั้น  จะยิ่งทำให้ความดันโลหิตของเราสูงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่นอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจหลอดเลือด และโรคหัวใจวายได้นั่นเอง

ฉะนั้น ทางที่ดีเราควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้ร่างกายของเราได้รับผลกระทบหรือความเสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายต่างๆได้นั่นเอง

พฤติกรรมความเลี่ยงหากไม่อยากเสี่ยงโรคซึมเศร้า

โรคซึมเศร้า เป็นหนึ่งในโรคที่มีความอันตรายและร้ายแรงเป็นอย่างมาก เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะได้รับผลกระทบจากภาวะโรคซึมเศร้ากันอยู่กันอย่างแน่นอน ซึ่งโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของอารมณื สภาพจิตใจ

เสี่ยงโรคซึมเศร้า รวมไปถึงปัญหาของความเครียดก็เป็นหนึ่งในผลกระทบที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้นั่นเอง และแน่นอนว่า โรคนี้นับเป็นโรคที่หลาย ๆ คนไม่ควรมองข้ามกันอย่างเด็ดขาด

เพราะหากปล่อยไว้นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ยังอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตของเราได้ เพราะส่วนใหญ่แล้วคนที่เป็นโรคนี้อาจมีความคิดที่สั้น หรือคิดที่อยากจะฆ่าตัวตายนั่นเอง ดังนั้น การดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีด้วยการหมั่นสังเกตอาการ หรืออารมณ์ของตนเองให้ดี

จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ได้ รวมไปถึงการมีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า ฉะนั้น วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า พฤติกรรมที่เราทำอยู่จะมีพฤติกรรมไหนบ้างที่เราควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากเป็นโรคซึมเศร้า ไปดูกันเลย 

1.การอยู่ห่างจากธรรมชาติ

รู้หรือไม่ง่าธรรมชาติเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ดี ที่สามารถเยียวยาสุขภาพจิตของเราให้ดีขึ้นได้ ยิ่งถ้าใครทำงานหนัก ๆ และเครียดมาก ๆ การที่ได้ออกไปเจอธรรมชาติก็จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีความเครียด และเราอยู่ห่างจากธรรมชาตินอกจากจะทำให้เรามีสุขภาพจิตที่ไม่ดีแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้ง่ายอีกด้วย 

2.การอดนอน

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่า การนอนหลัยพักผ่อนไม่เพียงพอ นอกจาก  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ    จะส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพต่าง ๆ แล้ว ยังอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้เช่นกัน เพราะหากคุณนอนไม่พอ บวกกับการทำงานหนักมาก ๆ เครียดมาก ๆ เจอสังคมที่วุ่นวาย เจอปัญหาต่าง ๆ

ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต นอกจากจะทำให้ร่างกายของเราอ่อนเพลียได้ง่ายแล้ว ยังเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าได้นั่นเอง รวมไปถึงอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราได้อีกด้วย 

3.เรื่องของความเศร้า

แน่นอนว่าปัญหานี้ถือเป็นหนึ่งในปัญหาหลักที่ทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเอาความโศกเศร้าเขามาในใจ เราก็จะยิ่งกังวล เครียด จนส่งผลเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้างได้นั่นเอง บวกกับการที่เรารู้สึกเสียใจมาก ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า หรือโรคที่เกี่ยวกับสุขภาพจิตของเราได้นั่นเอง ฉะนั้น การดูแลสุขภาพจิตของตนเองให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม

อยากฟิตหุ่นควรจะเริ่มต้นอย่างไรดี

คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะใครก็ตาม ก็มักที่อยากจะมีสุขภาพร่างกายที่ดีหรืออยากมีรูปร่างที่สวยเพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยในการเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มบุคลิกภาพในการใช้ชีวิต ซึ่งรู้หรือไม่ว่าการที่เราจะมีรูปร่างที่ดีหรือมีหุ่นที่สวยนั้นสมัยนี้สามารถทำได้หลากหลายวิธีที่แตกต่างกันออกไป

และวิธีที่หลายๆคนเลือกที่จะทำนั่นก็คือการออกกำลังกายหรือแม้แต่การควบคุมอาหารเพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่หลายๆคนมองว่าสามารถให้ผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนและรวดเร็ว

อยากฟิตหุ่นควรจะเริ่มต้น เพราะเป้าหมายหรือ ความตั้งใจของคนเรานั้นจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องมีวินัยในการลดน้ำหนัก

เพื่อให้เรานั้นมีรูปร่างที่ดีและมีสุขภาพร่างกายที่ดีไปด้วย ซึ่งในพนี้แน่นอนว่าหลายๆคนก็คงอยากจะมี อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมองหาวิธีการลดน้ำหนักหรือการที่ทำให้ตนเองนั้นมีรูปร่างที่ดีหรือมีหุ่นที่สวย

เครื่องช่วยฟัง    ซึ่งก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปสำหรับใครที่อยากเริ่มต้นฟิตหุ่น หรืออยากมีรูปร่างที่สวย เพื่อที่จะได้สวมใส่เสื้อผ้าดีๆ วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆในการเริ่มต้นฟิตหุ่นเพื่อให้เรานั้นมีรูปร่างที่ดีแถมยังได้สุขภาพร่างกายที่ดีอีกด้วย จะมีวิธีไหนกันบ้างไปดูกันเลย

  • เริ่มต้นด้วยการวางแผน

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะลงมือทำอะไรสักอย่างนึงสิ่งสำคัญที่เราควรมองเป็นอันดับแรกเลยก็คือ การวางแผน ซึ่งการลดน้ำหนักหรือการฟิตหุ่นก็เช่นกัน หากเราอยากให้ผลลัพธ์ ที่ชัดเจนก็ควรที่จะเริ่มต้นด้วยการวางแผนก่อนที่เราจะลงมือทำเพราะเราจะได้รู้ว่าสิ่งที่เราควรทำเป็นอันดับแรกหรือสุดท้ายนั้นควรจะออกมาเอาในรูปแบบไหนเพื่อให้การลดน้ำหนักหรือฟิตหุ่นของเรามีประสิทธิภาพและเกิดผลลัพธ์ได้ดีที่สุด

  • การสร้างวินัยให้แก่ตนเอง

รู้หรือไม่ว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามีรูปร่างที่ดีมีหุ่นที่สวยหรือลดน้ำหนัก ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็คือการที่เราสร้างวินัยให้แก่ตนเองอย่างต่อเนื่อง เพราะหากเรามีวินัยในการลดน้ำหนักหรือการฟิตร่างกายจะยิ่งทำให้เรานั้น สามารถออกกำลังกายหรือไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามจะประสบความสำเร็จและไปถึงเป้าหมายได้เร็วมากยิ่งขึ้น

  • หลีกเลี่ยงจากความกังวล

หลายคนอาจจะทราบเน็ตเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าความกังวลนั้นถือเป็นหนึ่งในปัญหาหรือสาเหตุที่ทำให้การลดน้ำหนักหรือการฟิตร่างกายของเราไม่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้นหากเราอยากสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีหรืออยากลดน้ำหนัก

เพื่อที่เราจะได้มีรูปร่างที่ดีนั้นสิ่งสำคัญที่เราไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การที่เราควรหลีกเลี่ยงจากความกดดันหรือความวิตกกังวลต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในชีวิต เพราะความเครียดนั้นถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของปัญหาสุขภาพ หากเราอยากทำให้การลดน้ำหนักหรือการฟิทช์ห่วงเกิดประโยชน์ได้สูงสุดก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงจากความกังวลนั่นเอง

เคล็ดลับการควบคุมอาหารสำหรับการลดน้ำหนัก

เชื่อว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ ส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ ไม่ว่าใครก็ตามก็คงยากที่จะมีรูปร่างที่ดีอยากมีหุ่นที่สวยหรือแม้กระทั่งอยากมีสุขภาพร่างกายที่ดีกันทั้งนั้น การที่เรามีรูปร่างที่ดีหรือมีหุ่นที่สวยนั้นถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและเพิ่มบุคลิกภาพในการใช้ชีวิตได้

เคล็ดลับการควบคุมอาหาร ดังนั้นเราจึงจะเห็นได้ว่า หนุ่มๆสาวๆเลือกที่จะหันมาให้ความสำคัญกับการลดน้ำหนักไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม

ถึงแม้ว่าวิธีนั้นจะได้ผลหรือไม่ได้ผล เพราะในสมัยนี้มีวิธีการลดน้ำหนักมากมายหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นทั้ง การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือการกินยาลดน้ำหนัก การออกกำลังกายเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ การเลือกรับประทานอาหารที่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นการทำงานของระบบขับถ่าย หรือรวมไปจนถึงวิธีธรรมชาติอื่นๆที่หลายคนเลือกทำ

ซึ่งในแต่ละวิธีนัดก็จะมี ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปซึ่งก็ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนด้วย

ฉะนั้น สำหรับใครที่อยากที่จะลดน้ำหนักหรือกำลังอยู่ในช่วงของการลดน้ำหนักและไม่รู้ว่าจะ เลือกใช้วิธีไหนดี ที่จะทำให้การลดน้ำหนักนั้นสามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจน

วันนี้  เครื่องช่วยฟังอย่างดี   เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่ายๆในการควบคุมอาหารที่จะทำให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพและเห็นผลได้อย่างชัดเจน จะมีเคล็ดลับอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

1.การเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม

รู้หรือไม่ว่าการที่เราเลือกรับประทานอาหารให้มีความเหมาะสมหรือสมดุลถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะทำให้การลดน้ำหนักของเรามีประสิทธิภาพได้ เพราะไม่ใช่แค่ว่าเราจะเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ หรือเน้นไปที่อาหารที่สามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายได้

แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้อย่างชัดเจนเลยก็คือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารให้มีความสมดุลการใช้ชีวิตเพราะสิ่งนี้จะทำให้เรานั้นสามารถลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง

2.การทานผักให้มากขึ้น

สิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้การลดน้ำหนักของเราเห็นผลได้อย่างชัดเจนเลยก็คือ การที่เราเน้นการทานผักไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารไหนก็ตามควรที่จะเพิ่มผักเข้าไปในมื้ออาหารเพื่อเป็นตัวช่วยในการกระตุ้นระบบขับถ่าย เพื่อที่จะทำให้การลดน้ำหนักของเราเห็นผลได้อย่างชัดเจนแถมยังเป็นการดูแลสุขภาพร่างกาย หรือการเสริมสร้างสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้อีกด้วย

3.การกำจัดไขมันอิ่มตัว

หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าไขมันอิ่มตัวมักจะมาในรูปแบบของอาหารหรือขนมจุกจิกที่หลายๆคนชอบทาน เพราะคนส่วนใหญ่มักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมหรือการทานขนม ที่อุดมไปด้วยน้ำตาลค่อนข้างสูงจึงอาจทำให้ร่างกายเกิดการสะสมของไขมันได้

ฉะนั้นเคล็ดลับง่ายๆที่จะทำให้เรา ควบคุมอาหารเพื่อลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นก็คือการกำจัดไขมันอิ่มตัวออกไปจากร่างกาย เพราะถึงแม้ว่าอาหารประเภทนี้จะมีความอร่อยมากขนาดไหนก็ตามหากเราอยากลดน้ำหนักก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด

3 วิธีการดูแลระบบย่อยอาหาร

รู้หรือไม่ว่าการที่เรามีระบบย่อยอาหารที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดี แถมยังมีส่วนช่วยทำให้ ระบบย่อยอาหารหรือระบบขับถ่ายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

เพราะเนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้นอกจากจะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมหรือไม่มีประโยชน์

ยังมักมีพฤติกรรมที่ทำให้ตนเองนั้นมีอาการท้องอืดอยู่บ่อยๆซึ่งหากเราท้องอืดหลายคนอาจจะมองว่าเป็นอาการที่เกิดขึ้นโดยปกติที่หลายๆคนมักจะเป็นแต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นการที่เราจะท้องอืดได้นั้นอาจมีตัวที่คอยกระตุ้นหรือทำให้เรามีอาการท้องอืด ระบบย่อยอาหารที่ไม่ดีจนส่งผลกระทบต่อระบบขับถ่ายของเรา

ทำให้บางคนมีอาการปวดท้องร่วมด้วยนั่นเอง ดังนั้น การที่เรา อยากสร้างสุขภาพร่างกายที่ดีให้แก่ตนเองหรืออยากมีระบบย่อยอาหารที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้เราก็จะมาแนะนำวิธีง่ายๆที่จะช่วยให้คุณนั้นสามารถช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพรับรองได้เลย

ว่าหากทำเป็นประจำนอกจากจะ ทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่ดีมีรูปร่างที่ดีแล้วยังเป็นการดูแลระบบย่อยอาหารของเราอีกด้วยจะมีวิธีไหนกันบ้างไปดูกันเลย

1.การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้น

เนื่องจากคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักที่จะมีพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสมแถมยังมักที่จะมีพฤติกรรมการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียดก่อนกลืนอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมนี้ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานไม่มีประสิทธิภาพยังอาจส่งผลกระทบต่อระบบขับถ่ายของเราอีกด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลระบบย่อยอาหารควรที่จะเคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนที่เราจะกลืนอาหารเพื่อทำให้ระบบย่อยอาหารสามารถ ทำการย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.การหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป

แน่นอนว่าอาหารแปรรูปส่วนใหญ่ถึงแม้จะเป็นอาหารที่เราสามารถหาทานกันได้ง่ายหรือสามารถเก็บไว้ทานได้นาน แต่อาหารแปรรูปส่วนใหญ่นั้น ถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ยิ่งถ้าเราทานมากๆแต่ยิ่งทำให้ระบบย่อยอาหารของเราทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพ ฉะนั้น ทางที่ดีหากเราลดหรือหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากเรายังรับประทานเป็นประจำนั่นจะยิ่งเป็นการทำลายระบบย่อยอาหารของเรานั่นเอง

3.การทานไฟเบอร์ให้มากขึ้น

เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่เป็นการดูแลระบบย่อยอาหารที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากการที่เราจะทานไฟเบอร์เป็นประจำนั้นจะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นระบบกับด้ายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังเป็นการดูแลระบบย่อยอาหารทำให้ระบบย่อยอาหารสามารถย่อย อาหารที่เรารับประทานเข้าไปนั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยัง ไม่เป็นการใช้งานระบบย่อยอาหารมากจนเกินไปอีกด้วย

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่

แนะนำอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นประสาท

แน่นอนว่าในสมัยปัจจุบันนี้การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์หรือหากร่างกายของเราได้รับสารอาหารที่ดีและเพียงพอนั้นจะยิ่งช่วยให้ร่างกายของเราทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแถมยังช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆของเราให้แข็งแรงได้อีกด้วย

อาหารที่ช่วยบำรุงเส้นประสาท เพราะคนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้มักคิดจะเต็มที่กับการทำงานและมักที่จะมีพฤติกรรมการทำลายสุขภาพร่างกายของตนเอง

โดยเฉพาะในส่วนของเส้นประสาทของสมอง เพราะถือเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญของร่างกาย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องดูแลรักษาเส้นประสาทของเราให้ดีเพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบหรือส่งผลเสียต่อร่างกายของเรา

ซึ่งรู้หรือไม่ว่าสารอาหารแมกนีเซียมถือเป็นหนึ่งในสารอาหารที่ไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยในการบำรุงกระดูกและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเราให้แข็งแรงได้ แต่สารอาหารประเภทนี้ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นประสาทของเราได้เป็นอย่างดี

ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมองช่วยบำรุงหัวใจแถมยังช่วยบำรุงส่วนอื่นๆของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่อยากหันมาบำรุงเส้นประสาทสมองของตนเองให้มีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นประสาทได้รับรองได้เลย

เครื่องช่วยฟัง ดิจิตอล   ว่าหากรับประทานเป็นประจำนั้นไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายของเราแต่ยังส่งผลดีต่อเส้นประสาทของเราอีกด้วย จะมีอะไรกันบ้างไปดูกันเลย

1.ผักใบเขียว อย่างที่เราทราบกันดีว่าผักเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมากซึ่งไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือใยอาหารที่ค่อนข้างสูงแต่ในผักยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย ขอบอกเลยว่าหากเรารับประทานผักเป็นประจำนั้นจะไม่เพียงแต่ส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายแต่ยังมีส่วนช่วยในการบำรุงเส้นประสาทของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

2.ปลาแซลมอน แน่นอนว่าอาหารประเภทนี้เป็นหนึ่งในอาหารที่หลายๆคนนั้นชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก เพราะปลาแซลมอนเป็นอาหารที่สามารถหาทานได้ง่ายแถมยังมีรสชาติที่ถูกปากอีกด้วยซึ่งรู้หรือไม่ว่า ในปลาแซลมอนนั้นไม่เพียงแต่อุดมไปด้วยโอเมก้าสามแต่ยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ที่ร่างกายของเราต้องการหากเราทานเป็นประจำนั้น นอกจากจะได้ความอร่อยของปลาแซลมอนแล้วยังมีประโยชน์ทั้งด้านการบำรุงเส้นประสาทกล้ามเนื้อของเราให้แข็งแรงอีกด้วย

3.กล้วย เป็นหนึ่งในอาหารที่หลายๆบ้านนั้นขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้เพราะกล้วยเป็นหนึ่งในอาหารที่สามารถหาทานได้ง่ายแถมยังสามารถปลูกไว้ทานได้เองอีกด้วย ซึ่งรู้หรือไม่ว่ากล้วยจะอุดมไปด้วยโพแทสเซียมที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อกระดูกให้แข็งแรง ช่วยบำรุงหัวใจ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่เรียกได้ว่าหากร่างกายของเราได้รับนั้นจะสามารถช่วยบำรุงเส้นประสาทของเราให้แข็งแรงได้มากยิ่งขึ้น

3 อาหารช่วยปรับฮอร์โมนที่ผู้หญิงควรทาน

อาหารช่วยปรับฮอร์โมน การเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสามารถเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและทำให้เรามีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงอย่างเรายิ่งต้องหมั่นดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองให้ดีอยู่เสมอ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายเป็นประจำควบคู่ไปกับการเลือกรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์

เพราะปกติแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่มักที่จะมีฮอร์โมนในร่างกายที่ทำงานผิดปกติ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องหมั่นหาสิ่งดีๆ ให้แก่ร่างกายอยู่เสมอ เพราะการที่เรามีฮอร์โมนในร่างกายที่ทำงานได้อย่างมี อยากถือเป็นสิ่งสำคัญที่ จะทำให้ร่างกายของผู้หญิงอย่างเรานั้นทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังไม่ส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพต่างๆอีกด้วย

ดังนั้น สำหรับสาวๆคนไหนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการดูแลฮอร์โมนภายในร่างกายหรือมีฮอร์โมนที่ผิดปกติ วันนี้เราก็จะมาแนะนำอาหารที่มีส่วนช่วยในการปรับฮอร์โมนภายในร่างกายของเราให้มีความสมดุล ซึ่งขอบอกเลยว่าหากผู้หญิงอย่างเรา

ทานเป็นประจำนั้นจะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายแถมยังช่วยปรับฮอร์โมนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย จะมีอาหารประเภทไหนกันบ้างไปดูกันเลย

  • ข้าวกล้อ

ตรวจการได้ยินออนไลน์   ถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ผู้หญิงอย่างเราควรเลือกทานเป็นอย่างมากเพราะนอกจากจะช่วยปรับฮอร์โมนภายในร่างกายได้เป็นอย่างดีแล้วยังมีประโยชน์ดีๆต่อร่างกายแถมยังช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เพราะข้าวกล้องนั้นจะมีเส้นใยอาหารที่มีส่วนช่วยในการซับน้ำมัน และน้ำตาลภายในร่างกายของเราได้

ซึ่งหากเราทานเป็นประจำนั้นนอกจากจะช่วยปรับฮอร์โมนภายในร่างกายของเราได้แล้วยังมีส่วนช่วยในการลดความเครียด ใหม่ทำให้เราหงุดหงิดง่ายหรือมีอารมณ์ที่แปรปรวนได้ง่ายนั่นเอง

  • ถั่วเหลือง

เป็นหนึ่งในอาหารที่เรียกได้ว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้หญิงอย่างเราควรที่จะเลือกทานเป็นประจำ เพราะถั่วเหลืองไม่ว่าจะเป็นน้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมของโปรตีนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ยิ่งถ้าผู้หญิงอย่างเราทานเป็นประจำนั้นก็จะสามารถช่วยปรับฮอร์โมนภายในร่างกายที่ขาดไปได้

  • นมวัว

รู้หรือไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มเข้าสู่วัยทองหรือวัยเริ่มหมดประจำเดือนนั้นฮอร์โมนภายในร่างกายของเราจะเปลี่ยนไปและลดลงอย่างเห็นได้ชัด จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้อง เรียกสารอาหารที่ดีให้แก่ร่างกายเพื่อปรับความสมดุลของฮอร์โมนให้คงที่ ดังนั้น การที่เราดื่มนม

โดยเฉพาะอย่างยิ่งนมวัวเป็นประจำนั้น ถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่จะช่วยปรับความสมดุลของฮอร์โมนภายในร่างกายของผู้หญิงอย่างเราได้ แถมยังเป็นหนึ่งในอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราเยอะมากๆอีกด้วย

พื้นฐานของการสร้างแผนโภชนาการที่กำหนดเองของคุณ

ตอนนี้เราจะเรียนรู้วิธีใช้ Quantified Nutrition เพื่อสร้างแผนการรับประทานอาหารที่กำหนดเองของเรา สำหรับสิ่งนี้คุณต้องเข้าใจวิทยาศาสตร์เล็กน้อยว่าทำไมเราถึงมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น วิทยาศาสตร์เกี่ยวข้องกับการทำความเข้าใจคำศัพท์บางคำซึ่งมีความสำคัญต่อคุณในการสร้างแผนการลดน้ำหนักของคุณเอง

พื้นฐานของการสร้างแผนโภชนาการ ด้านล่าง เราแนะนำคุณเกี่ยวกับคำศัพท์พื้นฐานผ่านข้อความที่ตัดตอนมาจากหนังสือ ‘ลดไขมัน รับ FITTR’ ประพันธ์โดยผู้ก่อตั้ง FITTR ซึ่งแนะนำคำศัพท์เหล่านี้อย่างสวยงามมาก ในตอนนี้ คุณจะพบลิงก์ที่คุณสามารถใช้ความรู้ที่คุณได้รับเพื่อเริ่มสร้างแผนของคุณเอง “แก้ไขฉันถ้าฉันผิด

แต่คุณไม่คิดว่าผู้คนดูแลรถของพวกเขาดีกว่าร่างกายของพวกเขาเองเหรอ ไม่เพียงเท่านั้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจวิธีการทำงานของรถยนต์ได้ดีกว่ากลไกภายในร่างกายของพวกเขาเอง

ย่างไรก็ตาม สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจก็คือ หากรถของคุณเสียหรือหยุดทำงาน คุณสามารถซ่อมหรือเปลี่ยนรถใหม่ได้ตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถทำเช่นนั้นกับร่างกายของคุณได้ ร่างกายนี้เป็นร่างกายเดียวที่คุณมีและจะมีตลอดไป คุณไม่สามารถละทิ้งมันและอัปเกรดเป็นรุ่นที่ใหม่กว่าได้

คิดว่าร่างกายของคุณเป็นรถยนต์ เช่นเดียวกับที่รถของคุณต้องการเชื้อเพลิงเพื่อให้วิ่งได้ ร่างกายของคุณก็ต้องการเชื้อเพลิงเช่นกัน แล้วถ้ารถคุณเติมน้ำมันแต่แบตหมดรถจะวิ่งไหม? ไม่ ในทำนองเดียวกัน ในร่างกายของเราก็มีกลไกในการเปลี่ยนอาหารที่เรากินให้เป็นพลังงาน กลไกนั้นคือการเผาผลาญของคุณ

ฉันต้องการพลังงานเท่าไหร่ทุกวัน สิ่งมีชีวิตทุกชนิดมีเมแทบอลิซึม (หรือชุดของปฏิกิริยาเคมี) ที่ทำให้มันมีชีวิตอยู่และทำให้อวัยวะต่างๆ ทำงานและเติบโตได้ เช่นเดียวกับรถยนต์ ร่างกายมนุษย์มีระบบที่มีประสิทธิภาพเป็นพิเศษสำหรับการใช้พลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่แม้แต่เทคโนโลยีวิศวกรรมของเยอรมันก็สร้างไม่ได้

โดยในช่วงเวลาที่แตกต่างกันและขึ้นอยู่กับระดับของกิจกรรมที่คุณทำ ร่างกายต้องการพลังงานในปริมาณที่แตกต่างกันเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างราบรื่น สมมติว่าคุณกลับบ้านในวันเสาร์ คู่สมรสและลูกของคุณออกไปแล้ว คุณจึงอยู่คนเดียวที่บ้าน คุณตัดสินใจว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะติดตาม Netflix คุณนอนลงบนโซฟา ยกเท้าขึ้น และไม่นานคุณก็หลับไป

 ทันใดนั้น คุณได้รับโทรศัพท์จากคู่ของคุณพ่อแม่ของพวกเขากำลังจะมาทานอาหารเย็น คุณต้องข้ามไป  เครื่องช่วยฟัง   ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตและซื้อของบางอย่าง คร่ำครวญกับตัวเอง คุณลุกขึ้น สวมรองเท้าแล้วรีบออกจากประตู ซุปเปอร์มาร์เก็ตอยู่ใกล้ ๆ คุณจึงตัดสินใจเดินไปที่นั่นแทนการขับรถ

ในแต่ละกรณีนอนนิ่งๆ ยืนขึ้น เดินร่างกายของคุณกำลังใช้พลังงาน แต่อัตราการใช้พลังงานจะแตกต่างกันทุกครั้ง เมื่อคุณนอนลงและไม่ทำอะไรเลย คุณยังคงทำสิ่งต่างๆ มากมาย ความสับสน แม้ว่าคุณจะไม่รู้ตัว แต่ร่างกายของคุณก็เคลื่อนไหวเหมือนเครื่องจักร ปอดของคุณกำลังดึงอากาศเข้าไป หัวใจของคุณกำลังสูบฉีดเลือด และสมองของคุณยังคงทำงานอยู่

สิ่งเหล่านี้ทำให้คุณมีชีวิตอยู่ได้ และพลังงานที่จำเป็นต่อการทำงานที่จำเป็นทั้งหมดเหล่านี้ แม้ว่าร่างกายของคุณจะอยู่ในสภาวะพักผ่อนก็ตาม เรียกว่า Basal Metabolic Rate (BMR) เห็นได้ชัดว่าเมื่อคุณเริ่มเดิน คุณจะใช้พลังงานในอัตราที่สูงกว่า BMR ของคุณ—ยิ่งกิจกรรมมีความเข้มข้นมากเท่าใด ปริมาณพลังงานที่ใช้ไปในกิจกรรมนั้นก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น

ประโยชน์ของการกินเพื่อสุขภาพคืออะไรแน่นอนว่ามีประโยชน์

ประโยชน์ของการกิน การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีประโยชน์มากมาย รวมถึงการสร้างกระดูกที่แข็งแรง ปกป้องหัวใจ ป้องกันโรค และทำให้อารมณ์ดีขึ้น อาหารเพื่อสุขภาพโดยทั่วไปประกอบด้วยอาหารที่มีสารอาหารหนาแน่นจากกลุ่มอาหารหลักทั้งหมด รวมทั้งโปรตีนไม่ติดมัน ธัญพืชไม่ขัดสี ไขมันดี และผักและผลไม้หลากสี นิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพยังรวมถึงการเปลี่ยนอาหารที่มีไขมันทรานส์ เติมเกลือ และน้ำตาลด้วยตัวเลือกที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น

การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมีประโยชน์มากมาย รวมถึงการสร้างกระดูกที่แข็งแรง ปกป้องหัวใจ ป้องกันโรค และทำให้อารมณ์ดีขึ้น

บทความนี้กล่าวถึงประโยชน์สูงสุด ของอาหารเพื่อสุขภาพและหลักฐานเบื้องหลัง

สุขภาพหัวใจ จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา แหล่งที่เชื่อถือได้ของ American Heart Association (AHA) ระบุว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกามีชีวิตอยู่ด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดบางรูปแบบ ความดันโลหิตสูงหรือความดันโลหิตสูงเป็นปัญหาที่เพิ่มมากขึ้น

ในสหรัฐอเมริกา ภาวะนี้อาจนำไปสู่อาการหัวใจวาย หัวใจล้มเหลว และโรคหลอดเลือดสมองได้ อาจเป็นไปได้ที่  เครื่องช่วยฟัง    จะป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดก่อนวัยอันควรได้มากถึง 80% ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต เช่น เพิ่มการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อาหารที่ผู้คนกินสามารถลดความดันโลหิตและช่วยให้หัวใจแข็งแรง

อาหาร DASH หรือแนวทางการบริโภคอาหารเพื่อหยุดอาหารความดันโลหิตสูง รวมถึงอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจมากมาย โปรแกรมแนะนำแหล่งที่เชื่อถือได้

  • รับประทานผัก ผลไม้ และเมล็ดธัญพืชให้มาก
  • การเลือกผลิตภัณฑ์นมที่ปราศจากไขมันหรือไขมันต่ำ ปลา สัตว์ปีก ถั่ว ถั่วเปลือกแข็ง และน้ำมันพืช
  • จำกัดการบริโภคไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์ เช่น เนื้อสัตว์ติดมันและผลิตภัณฑ์จากนมไขมันเต็มส่วน
  • จำกัด เครื่องดื่มและอาหารที่มีน้ำตาลเพิ่ม
  • จำกัดการบริโภคโซเดียมให้น้อยกว่า 2,300 มิลลิกรัมต่อวัน หรือควรได้รับ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน และเพิ่มการบริโภคโพแทสเซียม แมกนีเซียม และแคลเซียม
  • อาหารที่มีเส้นใยสูงยังมีความสำคัญต่อการรักษาหัวใจให้แข็งแรง

แหล่งที่เชื่อถือได้ของ AHAT ระบุว่าใยอาหารช่วยปรับปรุงคอเลสเตอรอลในเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน และเบาหวานชนิดที่ 2 วงการแพทย์ยอมรับมานานแล้วถึงความเชื่อมโยงระหว่างไขมันทรานส์กับความเจ็บป่วยที่เกี่ยวข้องกับหัวใจ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ

การจำกัดไขมันบางประเภทยังสามารถทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นได้ ตัวอย่างเช่น การกำจัดไขมันทรานส์จะลดระดับคอเลสเตอรอลที่มีไลโปโปรตีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDL) คอเลสเตอรอลประเภทนี้ทำให้เกิดคราบจุลินทรีย์สะสมภายในหลอดเลือดแดง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด การลดความดันโลหิตยังสามารถส่งเสริมสุขภาพของหัวใจ

ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่อาจทำได้โดยการจำกัดการบริโภคเกลือให้ไม่เกิน 1,500 มก. ต่อวัน ผู้ผลิตอาหารใส่เกลือลงในอาหารแปรรูปและอาหารจานด่วนจำนวนมาก และผู้ที่ต้องการลดความดันโลหิตควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เหล่านี้

เคล็ดลับความอ่อนเยาว์

เคล็ดลับความอ่อนเยาว์ โบท็อกซ์ การฉีด OnabotulinumtoxinA หรือที่เรียกว่า Botox คืออะไร ได้รับการอนุมัติจาก FDA เพื่อใช้รักษารอยขมวดคิ้ว ตีนกา และหน้าผากในระดับปานกลางถึงรุนแรงเป็นการชั่วคราว ตามเว็บไซต์ Botox Cosmetic เหมาะกับใครบ้าง “โบท็อกซ์ทำงานได้ดีตรงรอยพับระหว่างคิ้ว รอยตีนกา เส้นกระต่ายข้างจมูก

และหน้าผาก” Langsdon กล่าว บทวิจารณ์ที่เผยแพร่ใน Clinical, Cosmetic, and Investigational Dermatology ในปี 2019

เสริมว่าโบท็อกซ์สามารถให้ผลกับเส้นหุ่นกระบอกซึ่งวิ่งในแนวตั้งจากมุมปากถึงคาง ริ้วรอยรอบริมฝีปาก และแถบแนวตั้งที่คอ – และบทวิจารณ์ระบุว่าผลลัพธ์จะอยู่ได้นานสามถึงหกเดือน ในขณะที่ Langsdon กล่าวว่าโบท็อกซ์ทำงานได้ดีในทุกที่ที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้

เขาเตือนว่าบางคนที่มีคิ้วต่ำจะเห็นคิ้วของพวกเขาลดลงหากแนวหน้าผากแนวนอนได้รับการรักษาด้วยสารพิษต่อระบบประสาท “บางครั้งคุณต้องปล่อยให้เส้นเหล่านั้นอยู่คนเดียว” เขากล่าว แพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์ตกแต่งใบหน้าจะช่วยแนะนำคุณ

ข้อเสีย ผลลัพธ์ไม่ปรากฏขึ้นทันที ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเพื่อช่วยในการจัดการความคาดหวังของคุณ

(และเพื่อวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม หากคุณกำลังเตรียมตัวสำหรับงานใหญ่) แม้ว่าบริษัทจะบอกว่า    หูตึงรักษา   ผลลัพธ์อาจปรากฏใน 24 ถึง 48 ชั่วโมง แต่ “เราบอกให้ผู้ป่วยให้เวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์เพื่อให้ได้ผลเต็มที่” Langsdon กล่าว นอกจากนี้ เนื่องจากผู้ชายมีมวลกล้ามเนื้อมากกว่า

พวกเขาจึงต้องการโบท็อกซ์ในปริมาณที่มากขึ้นเพื่อลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมักจะเพิ่มเป็นสองเท่าของขนาดยาที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้หญิง ตามรายงานของ Clinical, Cosmetic, and Investigational Dermatology

ไดสปอร์ต AbobotulinumtoxinA หรือ Dysport คืออะไร เป็นสารฉีดที่สามารถทำให้เส้นขมวดคิ้วระหว่างคิ้วเรียบขึ้น

ตามเว็บไซต์ของ Dysport ผลลัพธ์จะแสดงภายในสองถึงสามวัน แต่อาจใช้เวลาถึงหนึ่งสัปดาห์ ใครดีที่สุดสำหรับแพทย์บางคน เช่น Manish Shah, MD, ศัลยแพทย์ตกแต่งที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการที่ Shah Aesthetic Surgery ในเดนเวอร์ ได้เลิกใช้โบท็อกซ์แล้ว “ฉันชอบใช้ Dysport” ดร. ชาห์กล่าว เขาชี้ให้เห็นว่ามันกินเวลาสี่เดือน

โดยอนุญาตให้ผู้ป่วยมาที่สำนักงานเพียงสามครั้งต่อปี Dysport กล่าวว่าผลลัพธ์อาจคงอยู่ได้นานขึ้นถึงห้าเดือนในผู้ป่วยบางราย มีข้อได้เปรียบทางการเงินเช่นกัน: หากต้องการนัดหมายน้อยลงตลอดทั้งปี ผลลัพธ์ที่ได้คือมีค่าใช้จ่ายน้อยลง นั่นสามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

เพราะในกรณีนั้น “ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อมาเป็นประจำ” Shah กล่าว นอกจากนี้ Byrne กล่าวว่า Dysport อาจเดินทางผ่านเนื้อเยื่อได้ไกลกว่าเล็กน้อย “นั่นทำให้คุณได้เปรียบในบางสถานการณ์ เช่น รอยตีนกา ซึ่งมีพื้นที่การรักษาที่กว้างกว่า” เขากล่าว

ประโยชน์อื่นที่เป็นไปได้? การลดความมันบนใบหน้า ขนาดรูขุมขน และสิว เนื่องจากการฉีดพิษต่อระบบประสาทเหล่านี้อาจรบกวนการทำงานของต่อมไขมัน (น้ำมัน) ตามการทบทวนที่ตีพิมพ์ในปี 2021 ใน Toxins บทวิจารณ์ระบุว่า Dysport อาจเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับจุดประสงค์นี้

โดยเฉพาะ ยาฉีดเหล่านี้ไม่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (FDA) ในการรักษาสิว ดังนั้นควรพิจารณาว่าเป็นโบนัสที่เป็นไปได้ ไม่ใช่การรับประกัน การทดลองแบบสุ่มปกปิดสองทางที่ตีพิมพ์ในปี 2021 ใน Dermatologic Surgery ซึ่งมีผู้เข้าร่วม 50 คน

พบว่าการฉีด Dysport ที่หน้าผากลดความมันในบริเวณนั้นลงอย่างมากเป็นเวลาหกเดือน ผู้เข้าร่วมการศึกษาที่ได้รับการรักษารายงานว่าพวกเขา

มีความสุขมากกับผลลัพธ์ที่ได้ ข้อเสีย ยาฉีดอื่นๆ เช่น โบท็อกซ์ อาจทำงานได้ดีขึ้นเมื่อคุณต้องการกำหนดเป้าหมายกล้ามเนื้อที่แม่นยำ (เช่น รอยขมวดคิ้วระหว่างคิ้ว เป็นต้น) Byrne กล่าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการด้วย Dysport: “ความแตกต่างเหล่านี้บอบบางมาก ฉันไม่คิดว่ามันสำคัญอะไรมากนัก” เขากล่าว