ลูกชายคนขับรถบัสที่ขับไปประสบอุบัติเหตุชนกับรถไฟออกมาขอโทษคนในสังคมแทนพ่อที่เสียชีวิต

           จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราตรงบริเวณทางข้ามทางรถไฟซึ่งเกิดอุบัติเหตุรถบัสขับชนประสานงากลับรถไฟที่วิ่งมาตามรางซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและมีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากโดยจำนวนผู้เสียชีวิตในขณะนี้สามารถรับได้ถึง 19  คนด้วยกัน

           บริจาคเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับญาติของผู้เสียชีวิตเป็นอย่างมากซึ่งทุกคนก็พากันเดินทางมาตรงสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุเพื่อทำพิธีพาวิญญาณของผู้เสียชีวิตนั้นกลับบ้านหนึ่งในผู้ที่เดินทางมาประกอบพิธีดังกล่าวด้วยเป็นลูกเลี้ยงของชายคนที่ขับรถบัสที่ขับรถมาประสบอุบัติเหตุชนกับรถไฟในครั้งนี้ด้วย

         โดยใช้คนดังกล่าวแจ้งว่าตนเองนั้นชื่อว่า นายหัถพล เพลงของที่ขับรถบัสซึ่งวันนี้เขาได้เดินทางเพื่อมารับดวงวิญญาณของพ่อของเขาไปทำพิธีที่บ้านอย่างไรก็ตามเขาได้ยกมือขอโทษทุกคนผ่านทางผู้สื่อข่าวและฝากขอโทษไปยังได้ของผู้เสียชีวิตทุกคนว่าเขาขอโทษแทนพ่อของเขาที่เสียชีวิตด้วยเขาเชื่อว่าพ่อเขาเองไม่ต้องไปให้มีอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้นซึ่งตัวเขาเองก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียว

        และแน่นอนว่าหลายคนที่ได้เห็นข่าวต่างก็พิพาทวิจารณ์ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดมาจากความประมาทของคนขับรถบัสแต่ตัวเขาเองซึ่งเป็นลูกชายรู้ดีว่าพ่อของเขานั้นไม่กินเหล้าและไม่สูบบุหรี่ซึ่งเขาชื่อว่ามันน่าจะเกิดจากอุบัติเหตุโดยตรงแต่เขาก็ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไรหรือจากเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์

          อย่างไรก็ตามในตอนนี้เขาได้ระบุว่าครอบครัวของเขาได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะคนในโลกออนไลน์พากันไปถล่ม Facebook รวมถึง Instagram ของเขาจนขนาดนี้เขาได้ปิด Facebook และ Instagram หนีเพราะไม่อยากเข้าไปอ่านคอมเม้นที่มีแต่เข้ามารุมด่าและร่วมประนามครอบครัวของเขา

        โดยลูกชายของคนขับรถบัสยังได้ฝากชี้แจงมายังคนในสังคมออนไลน์ด้วยว่าตัวเขาเองก็เป็นหนึ่งในของผู้ที่สูญเสียเช่นเดียวกันเพราะพ่อของเขาที่ขับรถบัสก็เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้เช่นเดียวกันดังนั้นเขาจึงอยากฝากไปยังคนในโลกออนไลน์ รวมถึงทางด้านญาติๆของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ ให้เข้าใจถึงสภาพของเขาที่ต้องมาสูญเสียเหมือนกับคนอื่นๆไม่อยากให้คนในโลกออนไลน์นั้นพากันมาถล่มครอบครัวของเขาเพราะตอนนี้ครอบครัวของเขาเองก็แย่ไม่ต่างจากครอบครัวคนอื่นๆเช่นเดียวกันนั่นเอง

 

สนับสนุนโดย  สมัครสมาชิกหวยออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ

มาดูกันว่าเทคโนโลยีที่จะมาช่วยในการสอนจะเป็นอย่างไร

 

เราต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีนั้นมีบทบาทในชีวิตประจำวันเรามากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเวลาผ่านไปก็จะเข้าไปถึงทุกที่ซึ่งในจุดนี้ถือว่าเป็นข้อดีอย่างมาก จะอย่างไรนั้นเดี๋ยวเราค่อยมาว่ากัน โดยปกติแล้วการศึกษาของไทยเรานั้นไม่ได้เท่าเทียมกันทุกคนทุกพื้นที่ คนที่อยู่ในเมืองและมีฐานะที่ทางบ้านสามารถส่งให้เรียนได้ก็จะมีการศึกษาที่ดีกว่าและมีความรู้ที่ดีกว่าคนที่อยู่ห่างไกลและคนที่ไม่มีเงินที่ส่งลุกเรียน

โดยในประเทศไทยนั้นตอนนี้ได้ออกกฎหมายว่าให้ทุกคนที่เป็นคนไทยมีการศึกษาชั้นพื้นฐานที่ม.6 แต่ด้วยความเป็นจริงแล้วในหลายๆพื้นที่โดยเฉพาะที่ห่างไกลความเจริญนั้นเด็กทั่วไปไม่ได้เรียนหนังสือดังนั้นคือว่าเป็นจุดอ่อนที่สำคัญมากสำหรับคนไทย พื้นเติบโตมากับการศึกษาเล่าเรียนที่น้อยก็จะตามคนอื่นไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเป็นอย่างมาก

ยิ่งเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าขึ้นเท่าใดก็ยิ่งมีความถูกมากเท่านั้นทำให้คนที่อยู่ห่างไกลสามารถเข้าถือการศึกษาที่เท่าเทียมเหมือนคนที่อยู่ในตัวเมืองและจังหวัดใหญ่ๆได้ เพราะว่าการเล่าเรียนศึกษาไม่จำเป็นต้องเรียนกับครูแล้วสามารถศึกษาเล่าเรียนได้ผ่านทางออนไลน์ได้ ทำให้ทุกคนสามารถค้นคว้าข้อมูลตามที่ตนเองสนใจได้

โดยเมื่อเทคโนโลยีที่ช่วยในการสอนเข้ามาเป็นปัจจัยพื้นฐานแล้วมันก็จะส่งผลกับหลายสิ่งหลายอย่างอีกด้วย โดยเฉพาะครูที่อยู่ตามโรงเรียนก็จะมีบทบาทน้อยลง เพราะว่าเด็กไม่จำเป็นต้องเรียนกับครูที่มาสอนแต่สามารถเข้าหาสื่อออนไลน์และเรียนได้ตลอดเวลา โดยในสถานการณ์ปัจจุบันมหาลัยวิทยาลัยของต่างประเทศก็มีจำนวนนักศึกษาที่น้อยลง

จะมีการสอนออนไลน์โดยมหาลัยชื่อดังแบบไม่เสียเงินอีกด้วย ถ้าเราสังเกตให้ดีในจุดนี้เราจะเห็นได้ว่าในมหาวิทยาลัยดังๆได้มีการปรับตัวกันเกิดขึ้นเมื่อเทคโนโลยีได้สนการสื่อสารเข้ามาเรื่อยๆ ในอนาคตอาจจะมีการปิดตัวของโรงเรียนหลายๆแห่งหรือว่ามหาวิทยาลัยก็จะเริ่มๆปิดตัวเอง สถานที่ทำงานหลายๆแห่งก็จะมุมเน้นไปรับคนที่มีผลงานและมีความสามารถโดยที่ไม่เน้นไปรับคนที่จบจากมหาวิทยาลัยดังๆ

ซึ่งจะส่งผลกับการศึกษาในประเทศไทยค่อนข้างสูงเพราะประเทศไทยนั้นยึดติดการสถาบันศึกษามาก การจะจบมาและมีงานทำที่ดีจำเป็นต้องจบจากสถาบันที่มีชื่อเสีย แต่เทคโนโลยีก็จะมาช่วยลดบทบาทในส่วนนี้และทำให้เด็กไทยทุกคนมีความเท่าเทียมกันทุกคน แต่การแข่งขันก็จะเกิดขึ้นสูงขึ้นเรื่อยๆในอนาคตดังนั้นเราควรแนะนำให้ลูกหลานเริ่มปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในอนาคตที่จะเกิดขึ้นด้วย

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  สมัครสมาชิกหวยออนไลน์ ไม่มีขั้นต่ำ